Wednesday 7 March 2012

How to keep the camera.

It may be a little over-action. However, people like to see the top smooth. I recommend that you do not say this. Device is smooth.
I am a nutshell ... please consult your camera as this thing was really good, good camera bag is that it protects the camera with it. There should be room for a little bit of something with. I also do not buy it. It is too large.
I am a most wonderful trip (D-SLR I use) to take the camera and lens. I do not fit in the pocket of the camera lens. And outside the camera bag. Wound in order to protect the bag. This is not possible. I hit a few times, I know ...
This is a good flash. Other devices more than anything bruise more easily. This is what I bought for less than half of the remainder is not intended ...

I have the lens of the camera for most of it. The lens is great, I would have rather a lot of my weight. (This is much more difficult than the lens of the camera), the effect is strong. Lens is not as bad as it hit the camera lens and sockets. Flange, or is mounted, detached from the body, such as the new location. (Well, actually I get it?)
However, I have this bag. If you do not have it. I have a tendency to fill the canal, bridges, steel or traditional market, in this case, it is that bit of the thickness of the baht on May 10 is preferred.
Ah, but that bag is wet, if you have not put my bag. Seeking in itself. I felt that it was where it was wet.

We have time to finish. I was like a normal wallet. However, for ordinary people to use the lens. I, whether the lens, do not have a camera.
Camera that I do as well. I put the camera from the bag, stuffed in the bag again. (This time).

Tuesday 6 March 2012

Photography Tips to Elevate Your Skills


Plenty of individuals may be interested in improving their photography skills, however, many are scared to learn photography further because they either consider it too complex or simply do not have a clue what it entails. Luckily there are experts who are willing to share their expertise with 'newbies' in the hope that they will get interested in this 'scientific art form'. Most of these individuals are renowned photographers and authors who have gone ahead to publish guide books.

Entry Into Photography Most authors do not start out as an experts, and in many cases they may not initially have the inherent skills to become a good photographers. In fact many of their friends and family may have discouraged and told them that they do not have what it takes to become photographers. A good example is one acclaimed photographer who began by enrolling in a part-time photography course but did not achieve the results that he wished for. He began to learn photography by teaching himself the skills and learning new ways of taking good shots. This was about the time that he discovered the 'higher level' in photography which is the point when he was able to move to greater heights as far as skills are concerned. He then used this new found expertise to further the art form and even went on further to share his experiences

Main Areas of Focus One of the main areas of focus in photography involves the importance of the elevating your photography skills and how to find it. Equipment is important in any trade so when you begin to learn photography there is a lot to learn in terms of gear. Once learners are taken through the basics and learn how to use equipment correctly, they are one step closer to achieving the greater skills
 Using Photography Guides In these inspiring and enlightening pieces of literature, the authors take time to outline some of the factors that ensure that pictures are captured in the best way possible by combining the art and science of photography. Another major area that is usually featured in these publications is the business aspect which involves marketing of photos and photography services.
Additional Tips Other areas that upcoming professional photographers should put into consideration include the following: picture editing skills, simple solutions to lighting, as well as in-depth knowledge on types of cameras

การเลือกซื้อกล้องดิจิตอล SLR

การเลือกซื้อกล้องดิจิตอล SLR
คำถาม จะซื้อกล้องรุ่นใหนดี? เป็นคำถามยอดนิยมสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจ
ซื้อกล้องดิจิตอล   ทั้งนี้เพราะในปัจจุบันมี
กล้องดิจิตอลให้เลือกซื้อมากมาย โดยเฉพาะกล้องแบบดิจิตอล SLR   ได้รับความนิยมมากขึ้น และมีราคาถูกลงมาก แถมยังมีให้เลือกหลายยี่ห้อ ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป   หากคุณเป็นมือใหม่ การที่จะตัดสินใจเลือกซื้อจึงนับเป็นเรื่องน่าปวดหัวไม่น้อย ถ้าคุณไม่เคยรู้เรื่องกล้องดิจิตอลมาก่อน
บทความนี้อาจจะเป็นแนวทางในการตัดสินใจของคุณได้
ก่อนอื่นต้องมาดูกันว่า คุณตั้งงบไว้เท่าไร เพราะราคากล้องดิจิตอล SLR ในปัจจุบันมีตั้งแต่ราคาเริ่มทีหมื่นบาทไปจนราคาเป็นแสน  เมื่อตั้งงบไว้แล้ว เช่น สามหมื่นบาท ก็มองหาเฉพาะกล้องที่อยากได้ในงบของเรา รุ่นที่มีราคาสูงกว่าคงไม่ต้องนำมาพิจารณาให้ปวดหัว และอย่าได้หวั่นไหวกับของที่เกินงบ หรือจากการแนะนำของคนขายจนเกินไป เพราะนั้นอาจทำให้คุณได้กล้องดิจิตอลที่เกินจากงบที่ตั้งไว้เกินควร

ต่อไปเรามาพิจารณาถึงคุณสมบัติและส่วนประกอบต่างๆของกล้องอย่างคร่าวๆกัน 

ความละเอียด ในทุกวันนี้มีความละเอียดของกล้องสูงขึ้นมาก  ฉะนั้้นจงเลือกเลือกความละเอียดที่เหมาะสมกับการใช้งาน กล้องดิจิตอล SLR ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 8 จนถึง 21 ล้านพิกเซล หากคิดว่าจะอัดขยายภาพไม่เกิน 8 x 10 นิ้ว กล้องที่มีความละเอียดระดับ 8-10 ล้านพิกเซลก็เพียงพอแล้ว  เพราะคุณภาพของภาพที่ถ่ายที่ได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความละเอียดเพียงอย่างเดียวยังมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวกับคุณภาพของภาพถ่าย   อย่างไรก็ตามกล้องที่มีความละเอียดสูงมักจะให้ภาพที่มีคุณภาพดีกว่า แม้ว่าจะถ่ายภาพที่ไฟล์ขนาดเล็กลง เช่นกล้องที่ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล หากถ่ายภาพที่ความละเอียด 6 ล้านพิกเซล มักจะให้คุณภาพที่ดีกว่ากล้องดิจิตอล ที่มีความละเอียดสูงสุดที่ 6 ล้านพิกเซล ทั้งนี้เนื่องจากเซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ คุณภาพดีกว่า หรือหน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพดีกว่านั้นเอง หากต้องการใช้งานเพื่ออัดขยายภาพในขนาดไม่เกิน 4 x 6 นิ้ว ควรปรับตั้งกล้องที่ความละเอียดที่ 3 ล้านพิกเซลก็เพียงพอแล้วเพราะการตั้งความละเอียด 10 ล้านพิกเซล แล้วขยายภาพ 4 x 6 นิ้วคุณภาพจะไม่แตกต่างกับการตั้งความละเอียดที่ 3 ล้านพิกเซล   แต่ก็มีข้อระวังคือหากถ่ายภาพที่ความละเอีอดต่ำแล้วต้องการนำไปขยายภาพใหญ่ในภายหลังจะได้คุณภาพที่ไม่ดีเท่าที่ควรImage sensor   เซ็นเซอร์ภาพ ถ้าดูตามสเปคจะเขียนว่า Image sensor พูดง่ายๆก็คือ ส่วนที่ใช้รับภาพแทนฟิล์มนั้นเอง บางยี่ห้อใช้ CMOS เช่น แคนนอน แต่ส่วนใหญ่ใช้ CCD มีขนาดใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่เซ็นเซอร์ภาพที่มีใหญ่กว่าย่อมได้เปรียบ เพราะเก็บรายละเอียดได้มากกว่าและให้ภาพที่มีคุณภาพดีกว่า โดยทั่วไปกลอ้งดิจิตอล SLR ในปัจจุบันจะนิยมจะนิยมใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าฟิล์ม 35 mm เมื่อจะนำเลนส์ของกล้องฟิล์มมาใช้ จะต้องคูณทางยาวโฟกัสเพิ่ม 1.5 หรือ 1.6 เท่า จึงจะได้ทางยาวโฟกัสที่เทียบเท่ากับการใช้ฟิล์ม 35 mm ส่วนกลอ้งบางรุ่นที่ใช้เซ็นเซอร์เท่าฟิล์มก็ไม่ตอ้งคูณทางยาวโฟกัสเพิ่ม เช่น canon EOS 1Ds Mark lll หรือ EOS 5D เป็นต้น ส่วน กล้องโอลิมปัส พานาโซนิค และไลก้า ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 4/3 ซึ่งเล็กกว่าขนาด APS-C ต้องคูณทางยาวโฟกัสเพิ่ม 2 เท่า เช่น เลนส์ 50mm จะเพิ่มเป็น 100 mm เป็นต้น แต่มีข้อดีคือเป็นเลนส์ที่ออกแบบมาสำหรับเซ็นเซอร์ขนาด 4/3 โดยเฉพาะ ทำให้ตัวเลนส์มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา
เลนส์กล้องดิจิตอล SLR จะถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ หากกล้องรุ่นเล็กรุ่นกลางมักจะมีเลนส์คิทมาพร้อมกับตัวกล้อง เช่น18 – 55 มม หรือ 18 – 70 มม ก็เพียงพอแล้วสำหรับการถ่ายภาพทั่วๆไป แต่หากต้องการถ่ายในมุมกว้างขึ้น หรือถ่ายภาพสิ่งที่อยู่ระยะไกลจะไม่สามารถทำได้มากนัก จึงจะต้องซื้อเลนส์มาใช้เพิ่มเติม โดยเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสไม่ต่ำกว่า 18 มม จะช่วยให้ถ่ายภาพได้กว้างขึ้นหรือมากกว่า 55 มม จะถ่ายภาพได้ไกลมากขึ้น หากต้องการซื้อเลนส์เพิ่มเพื่อใช้งานต่อจากเลนส์คิท ขอแนะนำเลนส์ซูมขนาด 55 – 200 ถ้าชอบถ่ายวิวทิวทัศน์กว้างๆก็ขอแนะนำเลนส์ที่มีมุมกว้างมากขึ้น เช่น 12 – 24 มม หรือใช้เลนส์ครอบจักวาลตัวเดียวจบก็ได้เช่น 18 – 200 มม แต่คุณภาพจะไม่ดีเท่าเลนส์ช่วงซูมน้อยกว่า หากต้องการคุณภาพดีที่สุดก็ต้องเลือกใช้เลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยว เช่น ถ้าต้องการครอบคลุมตั้งแต่ 18 ถึง 200 มม จะต้องมีเลนส์ถึง 6 ตัวคือ 18 28 35 50 100 และ 200 มม โดยเลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยวส่วนใหญ่จะมีรูรับแสงกว้างสุดมากกว่าเลนส์ชูม เช่น F 1.4 จนถึง F 2.8 ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกตัวอาจเลือกเพียงบางตัวที่ดีที่สุดซึ่งดีกว่าการใช้เลนส์ซูมแน่นอน โดยทั่วไปนิยมใช้เลนส์ที่มีขนาด 50 มม F 1.8 เพราะมีราคาถูกเพียงไม่กี่พันบาท แต่ได้รูรับแสงกว้าง ใช้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยๆ ได้ดีมาก ถ้าชอบถ่ายภาพบุคคลก็คือแนะนำเลนส์เทเลระยะปานกลางเช่น 85 มม F 1.8 หรือจะซื้อเลนส์ 100 มม มาโคร F 2.8 ก็ได้ ใช้ประโยชน์ได้ทั้งการถ่ายภาพบุคคลและถ่ายวัตถุที่มีขนาดเล็กมากๆเช่นดอกไม้หรือแมลง
จอแสดงผล ปัจจุบันกล้องดิจอตอลมีจอมอแสดงผลเพื่อให้สะดวกในการใช้งานที่ใหญ่มากขึ้น เช่น 2.5 หรือ 3.0 นิ้ว ทำให้มองดูภาพ เมนู ตัวอักษร และไอคอนต่างๆ ได้อย่างชัดเจน การแบ่งปันภาพที่ถ่ายไปแล้วให้เพื่อนฝูงดูทำได้สะดวกมากขึ้น การเลือกจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่จึงควรเป็นสิ่งที่ใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อกล้อง ถ้าหากมีกล้องที่จอแสดงผลขนาดเท่ากัน ให้ดูความละเอียดของจอภาพเปรียบเทียบอีกทีหนึ่ง เพราะจอที่มีความละเอียดมากกว่า เช่น 150,000 กับ 230,000 พิกเซล จอที่ความละเอียดสูงกว่าจะแสดงภาพได้ชัดเจนกว่า และเห็นผลเมื่อซูมขยายภาพเพื่อตรวจสอบรายละเอียดความคมชัด นอกจากนี้ให้ดูองศาในการมองภาพด้วย บางรุ่นต้องมองตรงๆเท่านั้น หากมองเฉียงจะเห็นภาพจางลง แต่บางรุ่นมีมุมมองกว้างมากถึง 160 องศา กล้องบางรุ่นออกแบบให้จอมอนิเตอร์ปรับพลิกก้มเงยและหมุนได้รอบ ทำให้สะดวกในการถ่ายภาพมุมสูงหรือมุมต่ำ ความลึกของสี ความลึกของสี หรือ Bit Depth บางทีก็เรียก Color Depth ยิ่งมีความลึกของสีมากเท่าใด ก็จะเก็บรายละเอียดของเฉดสีมากเท่านั้น เช่น 10 บิต /สี หรือ 12 บิต/สี ในภาพถ่ายจะมีสามสี คือ RGB ถ้า 1 สี แสดงได้ 13 บิต 3 สีก็จะได้ 36 บิต เป็นต้น ถ้าเป็นกล้องระดับไฮเอนด์บางรุ่นจะทำได้ถึง 14 บิต /สี หรือ 42 บิตที่ RGB เก็บรายละเอียดของโทนสีได้มากกว่า 12 บิต ถึง 3 เท่า ให้คุณภาพที่ใกล้เคียงกับการใช้ฟิล์มทั่วๆไป การที่เฉกสีน้อยจะทำให้การแยกสีไม่ค่อยดี เท่าที่ควร เช่นกลีบดอกไม้สีแดงเข้ม แดงปานกลางและแดงอ่อน ดูด้วยตาเปล่าก็ไล่เฉดสีกันดี แต่ถ่ายออกมากลายเป็นสีแดงสีเดียว ถ้าบันทึกความลึกของสีได้มาก จะได้เฉดสีที่ใกล้เคียงกับที่ตามองเห็น
ไวท์บาลานซ์ไวท์บาลานซ์ หรือ สมดุลแสงขาว ฟังก์ชันนี้มีในกล้องดิจิตอล SLR ทุกรุ่น ส่วนใหญ่จะมีระบบปรับไวท์บาลานซ์อัติโนมัติ ทำให้ภาพถ่ายมีสีสันถูกต้องไม่ว่าจะถ่ายภาพกลางแจ้ง หรือสภาพแสงอื่นๆ ที่มีอุณภูมิสีแตกต่าง  กล้องบางรุ่นมีระบบถ่ายภาพ 3 หรือ 5 ภาพติดต่อกัน แต่ละภาพมีการปรับเปลี่ยนอุณภูมิสีที่แตกต่างกันอัติโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลาปรับตั้งทีละภาพ บางรุ่นยังกำหนดตัวเลขอุณภูมิสีเองได้ ปรับได้ละเอียดมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปราณีตในเรื่องของสีให้ถูกตอ้งมากที่สุด หรือปรับชิพท์ไวท์บาลานซ์ได้เพิ่มแก้ไขปัญหา เรื่องภาพมีโทนสีแดงหรือสีฟ้ามากเกินไปเพียงเล็กน้อย การปรับชิพซ์ไวท์บาลานซ์จะช่วยให้ได้ภาพที่มีสีสันถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน บางรุ่นมีระบบคัสตอมหรือแมนนวล โดยเทียบจากวัตถุที่มีสีขาวซึ่งจะทำให้ได้สีที่ถูกต้องมากที่สุด
ระบบการวัดแสงและบันทึกภาพ    กล้องดิจิตอล SLR ส่วนใหญ่มีระบบออโต้และโปรแกรมสำเร็จรูป รวมทั้งโหมดบันทึกภาพมาตรฐาน P,S,A,M ในระบบออโต้กล้องจะเลือกค่าความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง เลือกความไวแสง และปรับโฟกัสให้ทั้งหมด ผู้ใช้เพียงจัดองค์ประกอบภาพตามที่ต้องการและกดปุ่มชัตเตอร์ ถ้าแสงน้อยกล้องก็จะปรับความไวแสงให้สูงขึ้น หรือเปิดแฟลชทำงานอัตโนมัติ ทำให้ใช้งานง่าย และมีโปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับถ่ายภาพแบบต่างๆ เช่น ถ่ายภาพบุคคล ภาพทิวทัศน์ ภาพกลางคืน ภาพกีฬา ภาพพลุ ดอกไม้ไฟ ภาพหิมะ ชายหาด  กล้องบางรุ่นมีโปรแกรมที่หลากหลายมากอีกนับสิบแบบ แต่ถ้าหากคุณมีความรู้เรื่องเทคนิคการถ่ายภาพหรือมีประสบการณ์เรื่องการวัดแสงมาบ้างแล้ว ก็มีโหมดออโต้ความเร็วชัตเตอร์กับความเร็ว
รูรับแสงให้เล่นด้วย้ ซึ่งต้องปรับด้วยตนเอง
ออโต้โฟกัส
กล้องดิจิตอล SLR ทุกรุ่นเป็นระบบออโต้โฟกัส ทำงานได้รวดเร็วพอสมควร แต่รุ่นที่สูงขึ้นไปจะโฟกัสได้เร็วกว่า และเร็วยิ่งขึ้นมากในกล้องรุ่นท๊อป ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน เป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นกล้องสำหรับมืออาชีพ บางรุ่นมีโฟกัส 3 หรือ 5 จุด แต่บางรุ่นมีมากถึง 11 หรือ 16 จุด ยิ่งมากยิ่งดี เพราะไม่ว่าตัวแบบหรือสิ่งที่ต้องการจะถ่ายอยู่ในตำแหน่งใดก็จะปรับโฟกัสได้อย่างแม่นยำ โดยกล้องจะเลือกจุดโฟกัสให้ เเบบอัติโนมัต โฟกัสเองก็ได้ นอกจากนี้ควรพิจารณาช่วงการปรับโฟกัสว่าทำได้ที่ช่วง EV เท่าใด หากโฟกัสที่ EV ต่ำๆ ได้เช่น EV1 หรือ EV0 จะทำให้กลอ้งปรับโฟกัสได้แม้ในสภาพแสงสลัว หากเป็นกล้องระดับโปรบางรุ่นจะปรับโฟกัสได้ถึง EV-1 ทีเดียว

การตอบสนองที่รวดเร็ว
กล้องดิจอตอล SLR รุ่นใหม่ๆ มีการตอบสนองที่รวดเร็วดีมาก ตั้งแต่การเปิดสวิตช์กล้องพร้อมใช้งาน ไปจนถึงช่วงเวลาการลั่นชัตเตอร์และการถ่ายภาพต่อเนื่อง การเลือกซื้อกล้องควรพิจารณาเปรียบเทียบว่ากล้องแต่ละรุ่นพร้อมใช้งานในระยะเวลาเท่าใด กล้องบางรุ่นใช้เวลาไม่ถึง 0.2 วินาที ก็ใช้งานได้แล้ว ส่วนช่วงเวลาการลั่นชัตเตอร์ถ้าสั้นมากก็จะถ่ายภาพเหตุการณ์หรือสิ่งเคลื่อนไหวได้ดีเหมือนกับการใช้กล้องฟิล์ม สุดท้ายคือการถ่ายภาพต่อเนื่องอย่างน้อยควรจะทำได้ที่ 3 ภาพ/วินาที บางรุ่นอาจจะเร็วถึง 5 ภาพ/วินาที

แต่ถ้าเป็นกล้องระดับโปร  อาจทำความเร็วขึ้นไปถึง 10 เฟรม/วินาที เหมาะสำหรับช่างภาพข่าว กีฬา หรือสัตว์ป่า ที่ตอ้งการความเร็วสูงๆ เพื่อจับจังหวะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ด
Buffer
Buffer ยิ่งมากยิ่งดี การที่มี Buffer หรือหน่วยความจำในตัวกล้องมากๆ จะช่วยให้การถ่ายภาพเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่ต้องเสียเวลารอคอยนานๆ และไม่พลาดโอกาสสำคัญในการบันทึกภาพ กล่าวคือ กลังจากที่เรากดชัตเตอร์ถ่ายภาพไปแล้ว ข้อมูลภาพที่ผ่านหน่วยประมวลผลจะถูกพักเก็บได้ก่อนด้วยบัฟเฟอร์ จากนั้นจะบันทึกลงใน เมมโมรี่การ์ดต่อไป (ขณะบันทึกจะมีไฟสีเขียวหรือสีแดงเตือนให้ทราบ) วิธีนี้ทำให้เราถ่ายภาพต่อไปได้เลย ไม่ต้องรอบันทึกลงการ์ดให้เสร็จเสียก่อน ถ้าบัฟเฟอร์เยอะก็สมารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้หลายๆภาพติดต่อกัน
ระบบกำจัดฝุ่น และระบบป้องกันภาพสั่นไหวกล้องดิจิตอล SLR หลายรุ่นในปัจจุบันมีระบบกำจัดฝุ่นในตัว โดยใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันออกไป ช่วยลดปัญหาเรื่องฝุ่นที่จับอยู่ตรงหน้าเซ็นเซอร์ได้เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของกล้องดิจิตอลแบบ SLR ที่ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ บางรุ่นมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้องเลย ทำให้สามารถนำเลนส์ตัวไหนก็ได้มาใช้แล้วมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว ไม่จำเป็นตอ้งสียเงินซื้อเลนส์ที่มีระบบกันสั่นไหวเพิ่มเติมอุปกรณ์เสริม และ บริการหลังการขายกล้องดิจิตอล SLR ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ จะมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกใช้มากมาย เพื่อความสะดวกในการถ่ายภาพทุกรูปแบบ โดยมีเลนส์เป็นอุปกรณ์เสริมหลัก รองลงมาคือ แฟลช สายลั่นชัตเตอร์ บางรุ่นมีแบตเตอรี่กริป ช่วยให้ใช้แบตเตอรี่ได้นานขึ้น ได้พร้อมกันสองก้อน ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างที่ถ่ายรูป บางรุ่นมีรีโมทแบบไร้สายช่วยให้ควบคุมการถ่ายภาพจากระยะไกลได้ สิ่งสุดท้ายที่ต้องคำนึงถึงคือ เรื่องของบริการหลังการขาย โดยทั่วไปกล้องดิจิตอลจะรับประกันคุณภาพ 1 ปี หากเกิดความเสียหายในช่วงระยะเวลาการรับประกันจะได้รับการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ฟรีโดยไม่คิอค่าบริการ หากเป็นชิ้นส่วนสำคัญ เช่น เซ็นเซอร์ภาพ หรือจอมอนิเตอร์ ค่าอะไหล่จะราคาสูงมาก เพื่อความสบายใจ การซื้อกล้องจากผู้นำเข้าที่ถูกต้องจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าแน่นอน ยกเว้นว่าราคาระหว่างผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการกับผู้นำเข้าอิสระจะแตกต่างกันมาก อาจเป็นสาเหตุให้ซื้อกล้องที่มีราคาถูกกว่า



Monday 5 March 2012

Cheap buy Panasonic DMC-FH25K Digital Camera


Panasonic DMC-FH25K 16.1MP Digital Camera with 8x Wide Angle Image Stabilized Zoom and 2.7 inch LCD (Black)

การเลือกซื้อกล้องแบบง่ายสุด

 จุดประสงค์หลักของกล้อง
คือ การเก็บภาพประทับใจในโอกาศต่างๆ  มีปัจจัยในการเลือก แบบง่ายๆสำหรับมือใหม่มาแนะนำดังนี้

1.ดีไซน์ วัสดุ สี ยิ่งเงายิ่งสีสวย ก็เรียกความสนใจได้เยอะ กล้องฉลาดแทบตายถ้าคนใช้ไม่ชอบอาจจะพาลไม่ใช้ไปเลยงานนี้ก็จะไม่คุ้ม รวมถึงดูแล้วมีความทดทาน สมบุกสมบัน 


2.ถ้าเป็นคนขยันรักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจแนะนำให้ซื้อกล้องที่ปรับแมนนวล speed shutter manual ได้ จะทำให้ถ่ายภาพ หน้าชัดหลังเบลอ ถ่ายภาพ เก็บแสงรถหรือไฟบนท้องถนนกลางคืนได้ ถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนที่เร็วๆให้หยุดนิ่งได้
 
3. ถ้าคุณแม่ คุณน้อง คุณแฟนสาวใช้เองใช้ แบบออโต้ก็มีพวกหมวดอัติโนมัติเยอะใช้ง่ายและรวดเร็วเรียกว่ากล้อง แบบ Point and Shoot

4.ซูมเยอะ กล้องมักจะตัวใหญ่ ซูมน้อยมักจะตัวเล็ก ลองดูจากวัตถุประสงค์การใช้งาน

5.จอใหญ่ จอเล็ก ความละเอียดของจอ มีผลทางใจถ้าความละเอียดสูงภาพที่จอ Lcd จะสวยกว่า แบบความละเอียดต่ำแต่ไม่มีผลกับรูปที่ล้างออกมาแน่นอน

6.แบตเตอรี่ AA มีน้ำหนักมากทำให้กล้องที่ใช้ถ่านAAหน้าตาจะไม่สวยงามบอบบางเท่าLI-onแต่ราคาประหยัดต่างกับ Li-onน้ำหนัก เบาแต่ราคาสูงกว่าแต่ให้กำลังไฟสม่ำเสมอกว่าช่วยยืดอายุการทำงานของกล้องกว่าถ่านแบบอื่น
 
7.ระบบกันสั่นช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่ากล้องทั่วไปประมาณ2- 3 stop ระบบกันเบลอใช้ ISO สูงเน้นถ่ายภาพที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาให้หยุดนิ่งได้แต่จะมีจุดสัญญานรบกวนที่ภาพทำให้ภาพดูไม่คมชัดและระบบสุดท้ายใช้ขาตั้งกล้องหนักหน่อยแต่ได้ทุกสถานการณ์หนักแต่ชัวร์กว่า

8.MARCRO เป็นรูปดอกไม้เล็กๆแปลว่าถ้าคุณชอบถ่ายภาพใกล้ๆภาพที่ได้จะไม่เบลอแบบว่าจะเอาให้เห็นหัวสิวกันเลยเนี่ยก็ต้องเลือกเอาแบบเลขน้อยๆซัก 1Cm-5Cm ก็ดี

9.Len ก็มีส่วนแต่ละค่ายก็จะสรรหาเลนส์ยี่ห้อดังๆมาใส่กันเลือกเอาตามใจชอบเลยเดือดๆกันทั้งนั้นแต่ละค่าย

สุดท้ายจะเลือกซื้อกล้องตัวไหนก็ให้อยู่ในงบประมาณ และเหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบันไม่ต้องเผื่อถึง 10ปีหรอก กล้องดิจิตอลมีอายุการใช้งาน ส่วนคนชอบความทันสมัยอาจจะถึงกับต้องไปเยี่ยมเยียนร้านกล้องกันทุกปีเพราะทนไม่ไหวกับรุ่นใหม่ที่มันสวยบาดใจเหลือเกิน อันนั้นก็ไม่ว่ากันคนขายเค้าชอบ   

พื้นฐานการเลือกกล้องถ่ายภาพ 1

Digital Camera

การเลือกซื้อ กล้องดิจิตอล เลือกซื้ออย่างไรให้ถูกใจ

กล้องถ่ายภาพดิจิตอล หรือ Digital Camera นั้นมีหลายยี่ห้อที่ผลิตออกมามากมายให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้กัน ข้างล่างนี้คือรายชื่อของยี่ห้อต่างๆ ที่มีอยู่


DXG
Epson
Ezonics
FUJI
Gateway
Hawking
HP
IBM
Intel
IXLA
Jazz
JVC
Kb Gear
Kensington
Kicker
Kodak
Konica Minolta
Kyocera
Labtec
LARGAN
Leica
Lifeview
Logitech
Mattel
Meade
MERCURY
Micro Innovations
Microtek
Minox
Mustek
Nexian
Nikon
Nokia
Olympus
Oregon Scientific
palmOne
Panasonic
Pentax
PictureTel
Polaroid
RCA
Relisys
Ricoh
Samsung
Sanyo
Sea Life
Sealife 
Sharp
Sigma
Sipix
SNAP
Sony
Sprint
Toshiba
Unibrain
VEO
Visio
Visioneer
Vivitar
Zoom
 จะเห็นได้ว่า กล้องดิจิตอล Digital Camera มีมากมายหลายยี่ห้อมาก บางยี่ห้อก็รู้จักคุ้นเคยกันอยู่ บางยี่ห้อนี่แทบไม่เคยเห็นเลยในเมืองไทย

กล้องดิจิตอล Digital Camera
   ในปัจจุบันนั้นเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้นเพื่อให้เราทำการเก็บภาพประทำใจไว้ชมหรือทำการเผยแพร่ให้ผู้อื่นชม ซึ่งสิ่งที่เห็นและรับรู้ได้มากที่สุดก็คือ ในเครื่องโทรศัพท์ แม้ว่าจะมีความละเอียดที่ไม่สูงนักแต่นั่นก็ถือว่าเป็นแนวทางที่ดีที่จะได้มีการพัฒนาความสามารถต่อยอดให้ดีมากยิ่งขึ้น
มาเข้าเรื่องกล้องดิจิตอลของเราต่อ กล้องดิจิตอล(Digital Camera) ที่เป็น กล้องดิจิตอล (Digital Camera) เพรียวนั้นได้รับการพัฒนาความสามารถให้สูงขึ้นและในอนาคตอาจจะมาแทนกล้องฟิล์มเลยก็ได้ เนื่องจากมีต้นทุนในระยาวที่ต่ำและมีความสะดวกในการใช้งาน กอปรกับสามารถที่จะนำภาพที่ถ่ายไปใช้งานยังส่วนอื่นๆ ได้ทันทีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมลล์, การนำภาพมาประกอบรายงาน เป็นต้น
ก่อนอื่นเรามารู้จักประเภทของกล้องดิจิตอลกัน ซึ่งแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
กล้องแบบคอมแพค (Compact)
  เป็นกล้องที่พร้อมใช้แบบสำเร็จรูป ใช้งานได้ง่ายไม่จำเป็นต้องปรับแต่งหรือเปลี่ยนแปลงอะไรมาก เนื่องจากมีฟังก์ชันให้ใช้ง่ายๆ โดยสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น P/A/S/M หรือ Auto (อัตโนมัติ), Portrait (ถ่ายภาพบุคคล), Landscape (ถ่ายภาพวิว), Sports (ถ่ายภาพกีฬา), Night scene (ถ่ายภาพกลางคืน) เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้งานกล้องดิจิตอล
กล้องแบบดิจิตอล SLR
  โดยกล้องแบบนี้จะมีลักษณะที่คล้ายกับกล้องฟิล์มก็คือสามารถที่จะถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ และมีฟังก์ชันในการใช้งานที่มากกว่ากล้องแบบคอมแพค แต่จะมีข้อดีที่สามารถถ่ายภาพได้ความคมชัดที่ดีกว่า ส่วนในเรื่องของราคานั้นแน่นอนมันมีราคาสูงกว่ากล้องแบบคอมแพคอยู่บ้างพอสมควร และกลุ่มการใช้งานอาจมีความรู้เรื่องกล้อง แสง การถ่ายภาพในระดับหนึ่ง



      ครั้งหน้าผมจะมาแนะนำการเลือกซื้อ กล้องดิจิตอล(Digital Camera) แบบง่ายให้ถูกใจ และเกิดประโยชน์สุงสุด ต่อไปครับ